ติดต่อลงโฆษณา racingweb@gmail.com

ผู้เขียน หัวข้อ: แนวโน้มราคาทอง 6 พฤศจิกายน 2567  (อ่าน 49 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ kaidee20

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,879
    • ดูรายละเอียด
ภาพรวมความเคลื่อนไหวของราคาทองคำล่าสุด
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ที่ระดับ 2,740 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นนี้มาจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ส่งผลให้มีการปรับฐานราคาลงเล็กน้อยในบางช่วง ทั้งนี้ กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เพิ่มการถือครองทองคำขึ้น 1.15 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปัจจัยเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรจับตาดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่:
[ul]
  • การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนตุลาคม โดย ADP ซึ่งจะสะท้อนถึงสภาพตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
  • การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 3 ประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งจะบ่งบอกถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
  • ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนกันยายน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของอัตราเงินเฟ้อ
[/ul]
การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เนื่องจากจะมีผลต่อการคาดการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอก สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD (Moving Average Convergence Divergence) ยังคงบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังการปรับฐานของราคาในระยะสั้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านที่ระดับ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
การติดตามสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจะเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินแนวโน้มราคาทองคำในระยะต่อไป