![](https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/26.-.jpg)
ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฝุ่น PM 2.5 มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก เนื่องจากยิ่งสูดดมก็ยิ่งทำให้เป็นอันตรายต่อปอด ต่อร่างกายได้ และการเลือกใช้
หน้ากากอนามัยชนิดกันฝุ่นจึงมีความสำคัญอย่างที่สุด แต่จะเลือกอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ายังมีบางคนไม่ทราบ และเราไม่รอช้ารวบรวมมาบอกต่อ รับประกันได้ประสิทธิภาพ 100% แน่ๆ
การเลือกซื้อเลือกหาหน้ากากอนามัยให้ถูกหลักความปลอดภัย1. ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล
แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ต้องได้รับการตรวจสอบมาตรฐานจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ โดยที่ต้องสังเกตบนอุปกรณ์ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐานสำหรับหน้ากากอากาศชนิดกรองอนุภาค ที่นานาประเทศยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น
- มาตรฐานอเมริกา (NIOSH Standard, NIOSH 42 CFR 84 หรือ ASTM Standard)
- มาตรฐานออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ (Australia/New Zealand Standard, AS/NZS 1761)
- มาตรฐานยุโรป (European Standard, EN 149)
- มาตรฐานญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standard หรือ JIS)
2. ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นดีเยี่ยม
สำหรับการกรองฝุ่น PM2.5 แน่นอนว่านี่เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน ดังนั้นควรเลือกซื้อ
หน้ากากกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้ โดยที่หน้ากากอนามัยธรรมดาทั่วไปมีความสามารถในการกรองฝุ่น 3 ไมครอน จึงเป็นสิ่งที่ทำให้บ่งบอกเราว่าไม่สามารถป้องกันฝุ่น 2.5 ได้นั่นเอง
3. ความกระชับที่มีต่อการสวมใส่
อีกสิ่งที่ต้องทราบก่อนเลือกก็คือเรื่องของการกระชับเวลาสวมใส่ คือใส่แล้วมีความสะดวกสบาย หายใจปกติ ไม่รัดแน่นจนเกินไปด้วย และเมื่อใส่หน้ากากไปแล้วก็จะต้องแนบกระชับใบหน้ามากที่สุด มีอากาศให้รั่วไหลได้
แนะนำหน้ากากแต่ละลักษณะที่ได้รับมาตรฐานสากลอย่างที่ทราบคือ
แมสปิดปากจะมีหลากหลายยี่ห้อมาก ๆ และเราก็รวบรวมมาให้ดูกันเลยว่าแบบไหนได้รับมาตรฐานสากลจากแหล่งใดบ้าง โดยมีด้วยกันคือ
- ASTM F2299 Level 1 เป็นการรับรองของสมาชิก ASTM สหรัฐอเมริกา โดยผ่านการรับรองมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาด 0.1 ไมครอนได้ ประมาณ 95% แต่หากเป็น Level 2 และ 3 ก็จะได้ประมาณ 98%
- N95 เป็นหน้ากากที่ได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บอกว่าหน้ากากมีประสิทธิภาพในการกรอง 95% และหากเป็นการกรองแบบ N99 ก็จะมีประสิทธิภาพการกรอง 99%
- P2 เป็นหน้ากากที่ผ่านการรับรองของออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยมีประสิทธิภาพในการกรอง 94% กรณีที่เป็น P3 ก็จะมีประสิทธิภาพการกรองที่ 99%
- FFP2 เป็นหน้ากากที่ได้รับการรับรองจากฝั่งยุโรปที่บ่งบอกว่ามีประสิทธิภาพการกรอง 94% และหากเป็น FFP3 ก็จะเท่ากับว่ามีประสิทธิภาพในการกรอง 99%
เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆจะสามารถเลือกซื้อเลือกหาหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างดีได้เต็มที่ เวลาเลือกซื้อก็ขอให้นำวิธีการเลือกซื้อเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูได้ หวังว่าต่อจากนี้จะมีสุขภาพที่ดี ไม่ป่วยง่ายกันนะ
สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website :
https://www.homepro.co.th/c/TOO020106